ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์
วิทยานิพนธ์เป็นงานทางปัญญาความคิด(Cognitive work) ต้องอาศัยแรงกาย (Physical work)
ในการทำวิทยานิพนธ์ นิสิต นักศึกษาต้องมีการค้นคว้าข้อมูล แสวงหาความรู้
สร้างแบบจำลองทางความคิดและใช้สมาธิ ความตั้งใจอย่างสูง ซึ่งการทำวิทยานิพนธ์เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนในระดับบัณฑิตศึกษา ทั้งระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในสถาบันการศึกษา ปกติแล้วการเรียนระดับบัณฑิตศึกษาจะประกอบด้วย
2 ส่วนหลักที่สำคัญ ส่วนแรกคือ
การเรียนตามรายวิชาหรือที่เรียกว่า Course Work และส่วนที่สองคือการทำวิทยานิพนธ์จะเป็นส่วนสำคัญและเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษา
การเขียนวิทยานิพนธ์จึงเป็นเรื่องจำเป็น ดังนั้นการที่จะสามารถบรรลุผลดังกล่าวได้นั้น นิสิต นักศึกษาต้องมีความรู้ในเรื่องที่ทำ มีระบบที่ดีในการคิด การทำงาน มีความรู้ ความสามารถ จะช่วยให้วิทยานิพนธ์มีคุณภาพ ซึ่งงานวิจัยในระดับบัณฑิตศึกษา เรียกว่า Thesisในภาษาไทยราชบัณฑิตยสถานได้บัญญัติให้ตรงกับคำว่า วิทยานิพนธ์ และการศึกษาค้นคว้าอิสระหรือที่เรียกว่า
Independent Study เป็นงานวิจัยในระดับปริญญาโทและใช้คำว่า
Dissertation หมายถึงงานวิจัยในระดับปริญญาเอก
ความหมายของวิทยานิพนธ์
ได้มีผู้ให้ความหมายของวิทยานิพนธ์ไว้
ทั้งความหมายแคบและความหมายกว้าง สำหรับความหมายแคบ วิทยานิพนธ์(Thesis or
Dissertation) หมายถึง การศึกษาค้นคว้าหรือการวิจัยของนักศึกษาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา
ซึ่งจะอยู่ในรูปของงานวิจัย มีอาจารย์ที่ปรึกษา
กรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ และที่สำคัญเป็นงานวิจัยที่นิสิต
นักศึกษาเลือกศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจและทำวิทยานิพนธ์ด้วยตนเองเกือบทุกกระบวนการ
ส่วนความหมายกว้าง วิทยานิพนธ์ หมายถึง บทนิพนธ์ที่ใช้กระบวนการวิจัยที่แสดงถึงความริเริ่มในการประมวลความรู้ และสร้างองค์ความรู้ใหม่ ที่ นักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา แผน ก แต่ละคนจะต้องทำ นับเป็นงานสำคัญยิ่งส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก โดยทั่วไปวิทยานิพนธ์ เป็นผลงานวิชาการที่มีเนื้อหาสาระที่แสดงถึงความริเริ่มของนักศึกษา โดยมีขอบข่าย ปริมาณ คุณภาพ และความลึกซึ้งของเนื้อหาสาระสูงกว่าการศึกษาค้นคว้าอิสระ
การศึกษาปัญหาพิเศษ และภาคนิพนธ์ ส่วนกรณีเป็นนิสิตในระดับบัณฑิตศึกษา แผน ข เรียกว่า การศึกษาค้นคว้าอิสระ (Independent
Study) การศึกษาปัญหาพิเศษ (Study Problem) สารนิพนธ์(Substantive
Report) หมายถึง บทนิพนธ์ กรณีศึกษา สิ่งประดิษฐ์ หรือการวิเคราะห์พัฒนาระบบงานที่ใช้วิธีการวิจัยที่แต่ละคนจะต้องทำเพื่อเป็นงานส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาโท และหลักสูตรประกาศนียบัตร โดยทั่วไปในการศึกษาค้นคว้าอิสระและการศึกษาปัญหาพิเศษ
สารนิพนธ์ มีขอบข่าย ปริมาณ คุณภาพ และความลึกซึ้งของเนื้อหาน้อยกว่าวิทยานิพนธ์(มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 2549 : 1)
วิทยานิพนธ์(Thesis)
ดุษฎีนิพนธ์ (Dissertation) เป็นรายงานการค้นคว้า
วิจัยที่เรียบเรียงอย่างละเอียดรอบครอบ มีเหตุ มีผล ตามขั้นตอนระเบียบวิธีวิจัย
เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญามหาบัณฑิตหรือดุษฎีบัณฑิต
(บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. 2536 :
13)
โดยทั่วไปงานวิจัยระดับปริญญาโทมีขอบเขต (Scope) ที่แคบกว่างานวิจัยระดับปริญญาเอก ขอบเขตที่ว่านี้อาจเป็นจำนวนประชากร
กลุ่มตัวอย่าง ตัวแปร ปรากฏการณ์
เหตุการณ์ หรือแนวคิดที่ศึกษา แต่วิทยานิพนธ์ก็ควรมีความริเริ่มใหม่ (Originality) และสร้างประโยชน์ต่อมวลความรู้มนุษย์และการเรียนระดับบัณฑิตศึกษาในแต่ละมหาวิทยาลัยแตกต่างกันในเรื่องโครงสร้างของหลักสูตรและกระบวนการอนุมัติงานวิทยานิพนธ์และการทำวิทยานิพนธ์
จะมีการแต่งตั้งอาจารย์จำนวนหนึ่ง ในรูปของคณะกรรมการวิทยานิพนธ์ โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่
นักศึกษาจนเสร็จสิ้นกระบวนการการทำวิทยานิพนธ์
รวมทั้งร่วมดำเนินการสอบปกป้องในขั้นตอนสุดท้าย และคณะกรรมการชุดนี้จะตัดสินอนุมัติหรือไม่อนุมัติผลสอบวิทยานิพนธ์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ววิทยานิพนธ์ก็จะผ่านการอนุมัติ
เนื่องจาก นักศึกษามีการติดต่อสื่อสารกับอาจารย์ที่ปรึกษาเสมอมา
ความสำคัญของวิทยานิพนธ์
การทำวิทยานิพนธ์เป็นกิจกรรมที่ควบคู่นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
เพราะเป็นส่วนประกอบในการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาทั้งปริญญาโทและปริญญาเอก เพื่อรับปริญญาบัตรจากสถานศึกษานั้น รวมทั้งฝึกให้นักศึกษาทำงานวิจัย
ให้มีความสามารถบุกเบิกความรู้ใหม่ในสาขาวิชาของตนและกระบวนการการทำวิทยานิพนธ์จะช่วยให้สามารถผลิตคนที่มีความรู้
มีคุณลักษณะที่ดี ทั้งความเพียรพยายาม
ความรอบครอบ การทำงานอย่างเป็นระบบและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ซึ่งวิทยานิพนธ์มีความสำคัญหลายประการ ดังนี้
1. วิทยานิพนธ์เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาทั้งสองระดับ
โดยทั่วไปจะอยู่ในรูปของงานวิจัย
มีอาจารย์ที่ปรึกษา กรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์
โดยในการศึกษาระดับปริญญาเอกขาดวิทยานิพนธ์ไม่ได้ หลักสูตรระดับปริญญาโท แผน ก
แบบ ก(1)ไม่มีการเรียนเป็นรายวิชาแต่จะมีการทำวิทยานิพนธ์เพียงอย่างเดียวไม่น้อยกว่า
36 หน่วยกิต แผน ก แบบ ก(2) ทำวิทยานิพนธ์ซึ่งมีค่าเทียบได้ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิตและศึกษารายวิชาอีกไม่น้อยกว่า 12
หน่วยกิต ส่วนแผน ข ทำการศึกษาค้นคว้าอิสระซึ่งมีค่าเทียบได้ไม่น้อยกว่า 8 หน่วยกิต
ระดับปริญญาเอก แบบ 1(2) ทำวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต
2. วิทยานิพนธ์เป็นเอกสารงานวิจัย
ของนักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา
งานวิจัยเหล่านี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นอันสำคัญในการสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ขณะเดียวกันงานวิจัยที่ผลิตออกมาสามารถนำไปใช้เป็นเอกสารอ้างอิงอย่างกว้างขวางและเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้งานวิจัยที่ผลิต
โดยนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามีทิศทางที่ตรงตามสถานการณ์และความต้องการปัจจุบัน
มีคุณค่าและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อวงการวิชาการอย่างแท้จริง (จิรพันธ์ อรรถจินดา.
2544 : คำนำ)
3. นิสิต
นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาส่วนใหญ่ให้ข้อมูลสะท้อนกลับว่า ความรู้ ประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำวิทยานิพนธ์มีประโยชน์ต่อการนำไปปฏิบัติหน้าที่มากมาย
เป็นประโยชน์ยิ่งกว่าที่ได้รับจากการเรียนรายวิชาต่าง ๆ ทั่วไป
กล่าวได้ว่าวิทยานิพนธ์มีความสำคัญ
โดยเฉพาะนักศึกษาจะต้องทำวิทยานิพนธ์ เพื่อเป็นส่วนประกอบในการจบหลักสูตรการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
รวมทั้งมีการใช้ความรู้การวิจัยในการปฏิบัติภารกิจของตนในวิชาชีพได้ด้วย
-------------------------------------
ให้คำปรึกษาการทำวิจัย thesis is การทำแบบสอบถาม ความพึงพอใจ การให้บริการ องค์กร ร้านค้า ธุรกิจ 084-7991757
-------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น